05 April 2013

เรื่องที่ต้องรู้ก่อนจดโดเมน


สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำเว็บไซต์ขึ้นมาเว็บนึง คือ โดเมน ที่เปรียบเสมือนชื่อของเรา หลายๆ คนให้ความสำคัญกับชื่อ แต่ลืมให้ความสำคัญกับความเป็นเจ้าของโดเมน ทำให้เกิดปัญหาใหญ่ที่ยุ่งยากตามมา
สิ่งที่ควรรู้ก่อนจดโดเมน

- ควรคัดสรรเลือกชื่อโดเมนก่อนตัดสินใจจดชื่อโดเมน เพราะเมื่อ จดชื่อโดเมนแล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงชื่อโดเมนที่จดไปแล้วได้ ต้องจดใหม่ ก็คือเสียเงินจดโดเมนเพิ่มอีก 1 โดเมน
- เลือกผู้ให้บริการจดโดเมนที่เชื่อถือได้ เพราะผู้ดูแลโดเมนให้คุณ จะต้องเป็นผู้ต่ออายุโดเมนให้เมื่อโดเมนหมดอายุ นอกจากนี้ เค้ายังสามารถเข้าไปจัดการแก้ไขโดเมนของคุณได้เช่นกัน
- ผู้ให้บริการ ควรจดชื่อโดเมนโดยใช้ชื่อคุณเป็นเจ้าของโดเมน 100% ไม่เช่นนั้นคุณจะไม่สามารถจัดการโดเมนของคุณเองได้ ซึ่งอาจเกิดปัญหา เมื่อคุณต้องการเปลี่ยนผู้ดูแลโดเมนของคุณเป็นเจ้าอื่น(การเปลี่ยนผู้ดูแลโดเมน ก็คือ การย้ายโดเมน หรือ Transfer Domain) ทั้งนี้ คุณควรเก็บ Username และ Password สำหรับโดเมนไว้เป็นความลับ หากคุณจ้างผู้อื่นทำเว็บไซต์ ให้แค่ Username และ Password สำหรับ FTP ก็พอ
- ในการจดโดเมน ต้องใช้ข้อมูลส่วนตัวของเจ้าของโดเมนคือ ชื่อ นามสกุล, ที่อยู่, รหัสไปรษณีย์, อีเมล, เบอร์โทรศัพท์ ทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ ซึ่งแนะนำให้กรอกข้อมูลให้ถูกต้องและครบถ้วน หากคุณต้องการทราบว่า เจ้าของโดเมนคือใคร สามารถเช็คได้ที่เว็บไซต์ http://www.whois.com จะปรากฏรายละเอียดเจ้าของโดเมน หากคุณเป็นเจ้าของโดเมนแล้ว และไม่ต้องการเปิดเผยรายละเอียดในส่วนนี้ สามารถแจ้งผู้ให้บริการให้ปกปิดข้อมูลส่วนนี้ได้

หลังจากจดโดเมน
อย่าลืมเข้าไปเช็คว่าโดเมนนั้นเป็นของคุณ 100% หรือไม่

การต่ออายุโดเมน
โดยปกติจะมี อีเมลแจ้งก่อนโดเมนจะหมดอายุประมาณ 45 วัน ดังนั้น ผู้เป็นเจ้าของโดเมน ควรหมั่นเช็คอีเมล หรือ อีเมลที่ใช้สำหรับสมัครจดโดเมนนั้น ควรเป็นอีเมลที่ใช้อยู่ประจำ เพื่อที่จะไม่พลาดการต่ออายุโดเมน
โดยการต่ออายุโดเมน ควรแจ้งไปยังผู้ให้บริการที่ดูแลให้ต่ออายุโดเมนให้
หากคุณพลาดต่ออายุโดเมน สามารถต่ออายุได้ภายใน 45 วันหลังจากวันหมดอายุ หากเกินนั้นบางโดเมนอาจถูกลบ กลับมาให้ทำการจดโดเมนใหม่ได้ แต่ส่วนใหญ่จะถูกผู้ให้บริการขายโดเมนซื้อไว้ ถ้าต้องการซื้อคืน จะต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงมาก จึงแนะนำว่า อย่าปล่อยให้โดเมนหมดอายุดีที่สุด
สามารถอ่านวงจรชีวิตโดเมนได้ที่นี่

การย้ายโดเมน
การจดโดเมน จะต้องมีผู้ให้บริการเป็นผู้จดโดเมนให้ ซึ่งผู้ให้บริการมีหลายเจ้า หากต้องการเปลี่ยนผู้ให้บริการก็สามารถทำได้ โดยทำตามขั้นตอนดังนี้
1. ตรวจสอบก่อนว่า โดเมนที่จะย้าย ยังไม่หมดอายุ และ ควรย้ายโดเมนก่อนถึงวันหมดอายุไม่น้อยกว่า 30 วัน และโดเมนนั้นคุณเป็นเจ้าของ 100%
2. ขอ Transfer Code หรือ Auth Code จากผู้ให้บริการรายเดิม หรือในบางกรณีเจ้าของโดเมน login เข้าไปดูในระบบจัดการโดเมนเองก็ได้
3. แจ้งชื่อโดเมนที่ต้องการย้าย และ Transfer Code ไปยังผู้ให้บริการรายใหม่ทำการย้าย
4. หลังจากผู้ให้บริการรายใหม่ดำเนินการย้ายโดเมนให้แล้ว จะมีอีเมลแจ้งมายังเจ้าของโดเมน ให้คลิก Approve คำขอย้ายโดเมน
5. การดำเนินการย้ายโดเมนจะใช้เวลาประมาณ 5 วัน
การย้ายโดเมนจะต่ออายุโดเมนไปในตัวเพิ่มอีก 1 ปี โดยอัติโนมัติ
---------------------------------------------------------------------
credit : http://www.thaihostclub.com
---------------------------------------------------------------------

01 April 2013

wordpress 2 ภาษา


เว็บไซต์ที่มีเนื้อหาและกลุ่มผู้ชมเว็บไซต์หลายกลุ่มที่ใช้หลายภาษา การใช้ปลั๊กอินตัวนี้คงจะช่วยให้ชีวิตชาวเวิร์ดเพรสง่ายขึ้นมากเลยทีเดียว เพราะว่าปลั๊กอินตัวนี้ใช้งานง่าย และสะดวก

ขั้นตอนการติดตั้งปลั๊กอิน qTranslate
1.ไปโหลด Plugin มาก่อนที่ http://wordpress.org/extend/plugins/qtranslate/ หรือ http://www.qianqin.de/qtranslate/
2.เข้าระบบ Admin แล้วเลือก Plugins (ที่อยู่ทางด้านบนขวาของจอ) แล้วเลือก Add New
3.จากนั้นเลือกที่แถบ Upload
4.กด Browse เพื่อเลือกไฟล์ที่โหลดมา แล้วกด Install Now
ทำการ Active เสร็จสิ้นขั้นตอนการติดตั้งครับ


  • ขั้นตอนการติดตั้งปลั๊กอิน qTranslate

  1. ไปโหลด Plugin มาก่อนที่ http://wordpress.org/extend/plugins/qtranslate/ หรือhttp://www.qianqin.de/qtranslate/
  2. เข้าระบบ Admin แล้วเลือก Plugins (ที่อยู่ทางด้านบนขวาของจอ)
  3. แล้วเลือก Add New
  4. จากนั้นเลือกที่แถบ Upload
  5. กด Browse เพื่อเลือกไฟล์ที่โหลดมา แล้วกด Install Now
  6. ทำการ Active   ซะ
  7. เสร็จสิ้นขั้นตอนการติดตั้ง
  • การเพิ่มภาษาใน qTranslate

  1. เข้าไปที่ Setting > Languages
  2. เลื่อนลงไปจนเจอส่วน Add Language
  3. ตัวอย่างสำหรับการตั้งค่าภาษาไทย
    qTranslate_add_lang.jpg
    - Language Code : TH
    - Flag : th.png
    - Name : Thailand
    - Locale : th
    - Date Format : %A %B %e%q, %Y
    - Time Format : %I:%M %p
    - Not Avaliable Message : Sorry, this entry is only available in %LANG
  4. กดปุ่ม  Add Language
  • การตั้งค่าให้ภาษา Default

  1. เข้าไปที่ Setting > Languages
  2. เลื่อนดูส่วน Generalที่หัวข้อ Default Langage / Order
  3. เลือกภาษาที่ต้องการใช้เป็นภาษาหลัก
    qTranslate_set_order_lanf.jpg
  4. กด Save ด้านล่าง
  • การใช้งาน qTranslate  สำหรับเว็บหลายภาษา

  1. เมื่อทำการเพิ่ม post / page
  2. ในส่วน Title : ใส่หัวข้องของเนื้อหาโดยเลือกใส่ตามช่องของภาษาที่ต้องการ
    qTranslate_title.jpg
  3. ในส่วนเนื้อหา : ให้กดเลือกที่อักษรย่อของภาษาที่ต้องการใส่เนื้อหา
    qTranslate_detail.jpg
  4. ในส่วน excerpt : ให้กดเลือกที่ธงของภาษาที่ต้องการใส่เนื้อหาก่อน
    qTranslate_excerpt.jpg
  • การเพิ่ม Widget ในการแสดงลิงก์เปลี่ยนภาษา

  1. เข้าไปที่ Appearance > Widget
  2. ลากกล่อง qTranslate Language Chooser ไปวางในส่วนที่ต้องการ
    qTranslate_widget.jpg

วิธีเปลี่ยน WordPress Thai เป็น English หรือ English เป็นไทย


ถ้าคุณติดตั้ง WordPress ภาษาไทย (หรือภาษาอื่น ๆ) ไปแล้ว และต้องการเปลี่ยนมาใช้ WordPress English ซึ่งเป็น Default ของ WordPress ในกรณีที่มี WordPress English Version ใหม่กำลังรอให้ Update อยู่ (ซึ่งมี Versionใหม่ให้อัพเดทอยู่เรื่อย ๆ) ให้ทำดังนี้

1) ทำ Backup ฐานข้อมูลของคุณก่อน สิ่งนี้สำคัญมาก ต้องทำนะ ใช้ปลั๊กอินที่เป็นที่นิยมคือ  WordPress Database Backup

2) ที่เมนู Dashboard ไปที่ Updates แล้วคลิก WordPress English Version เพื่อทำการอัพเดทไฟล์

3) หลังจากอัพเดทไฟล์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้ปิดหน้าจอเว็บไซต์ทั้งหมดของคุณรวมทั้งหน้า Admin ด้วย

4) เปิด FileZilla หรือโปรแกรม FTP อื่นที่คุณใช้ แล้วไปที่ /domains/your web site/public_html แล้วเปิดไฟล์ wp-config.php เพื่อแก้ไข

5) ค้นหาบรรทัดต่อไปนี้
สำหรับ thai เป็น english
define (‘WPLANG’, ‘th’); แก้เป็น define('WPLANG','');
สำหรับ english เป็น thai แก้เป็น efine (‘WPLANG’, ‘th’);

6) กด Save แล้ว Upload ไฟล์ขึ้น Server แค่นี้ก็เสร็จเรียบร้อยแล้ว ลองเปิดเว็บไซต์ตรวจสอบ จะเห็นว่าหน้าตาของเว็บไซต์ รวมถึง Dashboard จะกลายเป็นภาษาอังกฤษ(ไทย)ทั้งหมด

สำหรับคนที่ต้องการ upgrade wordpress เป็นเวอร์ชั่นใหม่หรือว่าเปลี่ยนภาษาควรจะสำรองไฟล์ wp-config.php และ โฟลเดอร์ wp-content ไว้ก่อนนะครับ เพื่อป้องกันปัญหา